Perfect Match: หาคนยังไงให้ไม่ปวดหัว?

Authored by Adisorn Veerachayapor, Assistance Manager, Staffing Services Department, PERSOL Thailand

culture fit

การจ้างงานไม่ใช่แค่การเติมเต็มตำแหน่งว่าง แต่คือการวางรากฐานสู่ความสำเร็จระยะยาว หลายองค์กรยังคงเผชิญปัญหา “หาคนไม่ตรง” ส่งผลให้ต้องรับมือกับการเปลี่ยนพนักงานบ่อยครั้ง และเสียต้นทุนโดยไม่จำเป็น
ไม่ว่าคุณจะเป็น HR Leader, ผู้จัดการฝ่ายสรรหา หรือเจ้าของธุรกิจ บทความนี้จะแชร์ กลยุทธ์การสรรหาที่ผ่านการพิสูจน์แล้ว พร้อมเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณสร้างทีมแข็งแกร่ง ยั่งยืน และลดปัญหาจ้างผิดให้เหลือน้อยที่สุด

ทำไมการจับคู่งานกับคนจึงยังล้มเหลว (และจะแก้อย่างไร)

วิธีสรรหาแบบเดิม เช่น การโพสต์งานทั่วไป กรองเรซูเม่ด้วยตาเปล่า หรือสัมภาษณ์แบบไม่เป็นระบบ มักนำไปสู่อัตราการลาออกสูง ความคาดหวังไม่ตรงกัน และพลาดโอกาสจ้างคนเก่ง

สาเหตุหลัก:
• โฟกัสแค่ทักษะเทคนิค: แม้วัดได้ง่าย แต่ไม่การันตีความสำเร็จระยะยาว
• ประกาศงานไม่ชัดเจน: ดึงดูดผู้สมัครที่ไม่ตรง
• ขาดการประเมินเป็นระบบ: เสี่ยงเกิดอคติและตัดสินใจผิดพลาด

วิธีแก้ไข:
• ใช้ Competency-Based Hiring ที่ประเมินทั้งทักษะ พฤติกรรม และค่านิยม
• ใช้เครื่องมือเชิงข้อมูล เช่น แบบประเมิน, KPI, และระบบ ATS
• ทำงานร่วมกันข้ามทีมเพื่อประเมินมุมมองจากผู้ที่ต้องร่วมงานจริง

ต้นทุนค่าเสียโอกาสจากการจ้างผิด

การจ้างผิดไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายที่มองเห็นได้ การศึกษาจาก SHRM พบว่าค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานหนึ่งคนเฉลี่ยอยู่ที่ $4,700 แต่หากจ้างผิดอาจมีค่าใช้จ่ายสูงกว่านั้นถึง 3-4 เท่าเมื่อคำนึงถึงสิ่งส่งมอบ ความมีประสิทธิภาพของงาน ค่าฝึกอบรม หรือ โอกาสต่าง ๆ ที่อาจะเสียไป

ผลกระทบหลัก:
• เสียเวลาและทรัพยากร
• บั่นทอนขวัญกำลังใจของทีม
• ลูกค้าไม่พอใจจากบริการที่แย่
• ความเสียหายต่อแบรนด์และชื่อเสียง

การให้ความสำคัญกับ “คุณภาพมากกว่าความเร็ว” ในการจ้างงานจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสความสำเร็จระยะยาว

“Perfect Match” คืออะไรกันแน่?

การแมตช์ที่ “ใช่” ไม่ได้หมายถึงการมองแค่จากเรซูเม่หรือปริญญาเพียงอย่างเดียว แต่คือการพิจารณาองค์รวมระหว่างสิ่งที่ผู้สมัครมีและสิ่งที่ตำแหน่งงานหรือองค์กรต้องการ

องค์ประกอบสำคัญ:
• Skills Fit: ผู้สมัครมีทักษะที่จำเป็นทั้งด้านเทคนิคและซอฟต์สกิลหรือไม่
• Cultural Fit: ผู้สมัครสามารถปรับตัวเข้ากับค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรได้หรือไม่
• Role Alignment: ผู้สมัครตื่นเต้นกับภารกิจและเป้าหมายของตำแหน่งนั้นหรือไม่
• Growth Potential: ผู้สมัครมีศักยภาพที่จะเติบโตไปพร้อมกับองค์กรหรือไม่
• Team Chemistry: ผู้สมัครทำงานร่วมกับทีมได้ราบรื่นหรือไม่

ทำให้กระบวนการสรรหาง่ายขึ้น

การจ้างที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดเวลาในการจ้างงาน, เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้สมัคร, และช่วยให้ได้คนที่เหมาะสมมากขึ้น
กลยุทธ์ทีละขั้น:

  1. กำหนดเกณฑ์การจ้างให้ชัดเจน ร่วมกับทีมที่เกี่ยวข้อง พร้อมให้ลำดับคะแนนแต่ละด้าน
  2. ใช้ระบบ ATS (Applicant Tracking System) เช่น Bullhorn, Greenhouse หรือ Lever ช่วยการคัดกรองเรซูเม่, การนัดสัมภาษณ์ และการบันทึกข้อมูลต่างๆ ได้ในระบบเดียว
  3. ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้สมัคร การสื่อสารที่ชัดเจน การอัปเดตสถานะ และการให้ฟีดแบ็คอย่างสม่ำเสมอ คือสิ่งที่ผู้สมัครจะจดจำและประทับใจ
  4. ใช้บริการ Outsourcing
    • RPO (Recruitment Process Outsourcing) เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทีมที่มีทรัพยากรจำกัด
    • ก่อนเลือกพาร์ทเนอร์ ควรมั่นใจว่าเขาเข้าใจวัฒนธรรมและเป้าหมายขององค์กรของคุณ
    • ศึกษาคู่มือการเลือกพาร์ทเนอร์ด้านการสรรหาที่เหมาะสม เพื่อความสำเร็จในระยะยาว
  5. ปิดท้ายด้วยการใช้ Analytics การวัดผลจากตัวชี้วัดต่างๆ เช่น time-to-fill, quality-of-hire และ retention rate จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงกระบวนการสรรหาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จับคู่ผู้สมัครอย่างแม่นยำ

การสรรหาที่แม่นยำคือการใช้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผู้สมัครที่ตรงกับตำแหน่งจริงๆ
เครื่องมือที่แนะนำ:

• แบบประเมินพฤติกรรม (เช่น DISC, Hogan): เพื่อประเมินความเข้ากันได้กับบทบาทและทีม
• Situational Judgment Tests (SJT): จำลองสถานการณ์จริงเพื่อประเมินการตัดสินใจ
• Work sample tests: ทดสอบทักษะผ่านโจทย์จริงที่เกี่ยวข้อง
• Blind hiring: ลบข้อมูลส่วนตัวเพื่อลดอคติในขั้นตอนการคัดเลือก
• Structured interviews: ใช้คำถามและเกณฑ์เดียวกันเพื่อให้กระบวนการสัมภาษณ์เป็นธรรมและเท่าเทียม

การจ้างคนไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก

ปัญหาการจ้างงานมักเกิดจากกระบวนการที่ไม่ชัดเจน, ความคาดหวังที่คลุมเครือ และการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่อมีระบบที่ดี, pipeline ที่ชัดเจน และแนวคิดที่ถูกต้อง ทุกอย่างก็สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปประเด็นสำคัญ:
• อย่ารีบร้อน ให้เวลาและความใส่ใจในทุกขั้นตอน
• มองให้ลึกกว่าบนเรซูเม่
• ใช้ระบบอัตโนมัติอย่างชาญฉลาด แต่ยังคงรักษาความเป็นมนุษย์
• ประเมินผลและปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

การหาคนที่ใช่ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่เป็นผลจากระบบที่ได้รับการออกแบบอย่างดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการอย่างสม่ำเสมอ

คำถามที่พบบ่อย: การหาคนที่ใช่

Q1: ทำไมการ Fit กับวัฒนธรรมองค์กรถึงสำคัญ?
A1: เพราะการที่ค่านิยมและสไตล์การทำงานของผู้สมัครสอดคล้องกับองค์กรจะช่วยเพิ่มความร่วมมือ ลดอัตราการลาออก และเพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน

Q2: จะรักษาความหลากหลายในการจ้าง พร้อมกับหาแมตช์ที่ใช่ได้อย่างไร?
A2: ใช้การสัมภาษณ์แบบโครงสร้าง, การรีวิวเรซูเม่แบบ Blind และเขียนประกาศงานที่รวมทุกกลุ่มคนเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึง

Q3: ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดในการจ้างงานคืออะไร?
A3: การรีบร้อนในการจ้างงาน, การมุ่งเน้นแค่เรซูเม่มากเกินไป และการละเลยขั้นตอนการปูพื้น onboarding ที่สำคัญ

Q4: ควรอัปเดตกระบวนการจ้างงานบ่อยแค่ไหน?
A4: อย่างน้อยปีละครั้ง หรือทันทีที่เป้าหมายทางธุรกิจหรือโครงสร้างทีมมีการเปลี่ยนแปลง

Q5: ควรจ้างจากทักษะหรือศักยภาพ?
A5: ทั้งสองมีความสำคัญ แต่หากต้องเลือก ให้เลือกศักยภาพ เพราะทักษะสามารถฝึกได้ แต่แรงจูงใจและทัศนคติไม่สามารถฝึกได้

Q6: แบรนด์นายจ้าง (Employer Branding) มีผลต่อการหาคนอย่างไร?
A6: แบรนด์นายจ้างช่วยดึงดูดผู้สมัครที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรและบ่งบอกว่าองค์กรของคุณให้สิ่งที่มากกว่าค่าจ้าง
พร้อมที่จะทำให้การจ้างงานของคุณง่ายขึ้นและได้แมตช์กับคนที่ใช่แล้วหรือยัง? ติดต่อเราวันนี้ เพื่อเริ่มต้นสร้างทีมที่แข็งแกร่งโดยไม่ปวดหัว!

ติดต่อเรา

หากมีคำถามหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทีมของเราพร้อมให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำอย่างเป็นมืออาชีพ

Loading form...